วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560

Puritan Odorless Garlic 1000 mg/ 250 Softgels ( Puritan’s Pride ) หาซื้อได้ที่นี่ ราคาพิเศษ

Odorless Garlic 1000 mg/ 250 Softgels ( Puritan’s Pride )

Odorless Garlic 1000 mg/ 250 Softgels ( Puritan’s Pride )
ราคา 990 บาท
สุดยอดน้ำมันจากกระเทียมชนิดไร้กลิ่น บำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง ประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย รักษา โรคเกี่ยวกับหัวใจ ช่วยลดระดับไขมันในกระแสเลือด เช่น ลดโคเลสเตอรอล  มีผลในการลดความดันโลหิตสูง ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่ม มากขึ้น และกระเทียมยังเปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อต่างๆ โรคมะเร็ง และช่วยต้านสารอนุมูลอิสระในร่างกาย
Puritan’s Pride Odorless Garlic 1000 mg/ 250 Softgels
เหมาะสำหรับ
  • ผู้ที่มีปัญหาไขมันคอลเลสเตอรอลในร่างกายสูง
  • ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดอุดตัน
  • ผู้ที่ต้องการเสริมและรักษาระบบการไหลเวียนของร่างกายให้มีสุขภาพดี
  • ผู้ที่มีประสบปัญหาสภาวะความดันโลหิตสูง
  • ผู้ ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย และลดปัญหาอาการภูมิแพ้ เช่น หวัด ไข้หวัด หอบ หืด ไซนัส หูอักเสบ และ ลดอาการเรื้อรังในระบบทางเดินหายใจ
  • ผู้ที่มีปัญหาสภาวะอาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องเฟ้อ ท้องอืด ปวดท้อง เสียดท้อง และ มีแผลของกระเพาะอาหาร
  • ผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงร่างกายให้มีสุขภาพดี
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
กระเทียมมีส่วนช่วยส่ง เสริมสุขภาพของหัวใจ หลอดเลือดหัวใจ และช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับปกติ เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติในกระเทียม ที่ให้คุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ และด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบสกัดเย็นสามารถช่วยรักษาคุณสมบัติทางธรรมชาติที่ ดีที่สุด และช่วยลดกลิ่นได้เป็นอย่างดี
ผลิตภัณฑ์นี้ปลอดภัยมี คุณภาพสูง สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว สกัดจากกระเทียมธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งสี ไม่มีสารให้ความหวาน ไม่มีสารกันบูด ไม่มีน้ำตาล ไม่มีแป้ง ไม่มีนม ไม่มีแลคโตส ไม่มีโปรตีน กลูเตน Gluten ไม่มีส่วนผสมจากข้าวสาลี ไม่มียีส ไม่มีปลา และ ไม่มีโซเดียม

รู้จักกับกระเทียม

กระเทียม ภาษาอังกฤษ คือ Garlic ส่วนกระเทียม ชื่อ วิทยาศาสตร์ คือคำว่า Allium sativum Linn.จัดเป็นสมุนไพรไทยและเครื่องเทศชนิดหนึ่ง ประโยชน์ ของกระเทียมที่เราเห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คือนิยมนำมาใส่อาหารเพื่อปรุงรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นผัด ทอด แกง ยำ ต้มยำ น้ำพริกต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีกระเทียมเป็นส่วน ประกอบแทบทั้งสิ้น
กระเทียม สรรพคุณทางยานั้นมีมากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี ธาตุซีลีเนียม ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี (โดยกระเทียม ถือว่าเป็นพืชที่มีธาตุซีลีเนียมมากกว่าพืชชนิดอื่นๆ) นอกจากนี้ยังมีสารอะดิโนซีน ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA และ RNA ของเซลล์ในร่างกายอีกด้วย
การค้นคว้าและวิจัย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับ สารสำคัญล้ำค่าของสมุนไพรกระเทียม ของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ทำให้เราทราบว่าธรรมชาติมีการผสมผสานสารสำคัญในกระเทียมไว้อย่างลงตัว อาทิเช่น
  •  สารประกอบซัลเฟอร์อย่างน้อย 33 ชนิด ซึ่งรวมถึง อัลลิซิน (Allicin) และ S-allylmercaptocystein
  •  กรดอะมิโนและไกลโคไซด์กว่า 17 ชนิด
  •  เอ็นไซม์หลากหลายชนิด
  •  เกลือแร่ โดยเฉพาะ เซเลเนียม (Selenium)
โดยสารสำคัญเหล่านี้ เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้กระเทียมมีคุณประโยชน์มากมายแก่ร่างกาย เป็นเสมือนยารักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจ โดยช่วยลดระดับไขมันในกระแสเลือด เช่น ลดโคเลสเตอรอลชนิดรวม และแอล ดี แอล โคเลสเตอรอล จึงเหมาะกับผู้ที่มีระดับไขมันโคเลสเตอรอลในเลือดสูง มากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร มีผลในการลดความดันโลหิตสูง ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้น และกระเทียมยังเปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะ ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อต่างๆ โรคมะเร็ง และช่วยต้านสารอนุมูลอิสระในร่างกาย
กระเทียมมีส่วนช่วยลดสภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และลดปัญหาคอเลสเตอรอล
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เกิดโรคหัวใจส่วนใหญ่ เนื่องมาจากการสะสมเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งกระเทียมมีส่วนช่วยลดปริมาณโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด โดยไขมันชนิดนี้เป็นสาเหตุหลักในการก่อให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือด จากการวิจัยพบว่าสารประกอบซัลเฟอร์ในกระเทียม โดยเฉพาะอัลลิซิน สามารถลดปริมาณโคเลสเตอรอลรวม และ โคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL-cholesterol) ได้ดี
สำหรับ กรณีผู้ที่มีปัญหาระดับไขมันโคเลสเตอรอลสูงมากกว่า 210 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ควรเสริมด้วยน้ำมันสกัดจากถั่วเหลือง หรือเลซิติน ควบคู่กับน้ำมันกระเทียมสกัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดให้ดียิ่งขึ้น แต่ กรณีผู้ที่มีปัญหาระดับไขมันโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สูงทั้งคู่ ควรเสริมด้วยน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ควบคู่กับน้ำมันกระเทียมสกัด จะช่วยลดไขมันทั้งโคเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ได้อย่างดี รวมทั้งน้ำมันปลายังมีผลในเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol) ที่มีหน้าที่ในการนำพาไขมันโคเลสเตอรอล ที่สะสมและอุดตันในหลอดเลือดกลับไปทำลายหรือเผาผลาญที่ตับ ดังนั้นหากสามารถเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-cholesterol) เพียง 1 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 3-4% ส่วน การทดลองทางคลินิกพบว่าเมื่อให้น้ำมันหอมระเหยจากกระเทียมกับคนปรกติและคน ไข้โรคหัวใจที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูง ในขนาด 0.25 มก./น้ำหนักตัว 1 กก. เป็นเวลา 10 เดือนพบว่าระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลดลง นอกจากนี้เมื่อให้กระเทียมสดกับคนไข้ที่มีไขมันในเลือดสูงในขนาดครั้งละ 25 กรัม วันละ 3 เวลา เป็นเวลา 25 วัน พบว่า 1/3 ของคนไข้มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ภาพจากสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรคช่วย ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดได้ถึง 58%เพราะการมีไขมันสะสมที่หลอดเลือดมากเกินไป จนก้อนไขมันเกิดการแตกตัว จะส่งผลกระตุ้นให้เกิดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เพื่อมาปิดก้อนไขมันที่แตกออก ทำให้หลอดเลือดเกิดการอุดตัน ส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบบพลัน หรือสมองขาดเลือด จนเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
กระเทียมมีส่วนช่วยลดสภาวะความดันโลหิตสูง
จากผลวิจัยยังพบว่าน้ำมันกระเทียมสกัดยังช่วยลดการจับแข็งตัวของลิ่ม เลือดกับก่อนไขมันในหลอดเลือดได้เป้นอย่างดี จากการยับยั้งเอนไซม์ Thromboxane ทำให้เลือดหมุนเวียนได้ง่ายขึ้น
กระเทียมมีส่วนช่วยเสริมภูมิต้านทาน และลดภูมิแพ้
น้ำมันกระเทียมสกัดมี สารอัลลิซิน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายโดยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ด เลือดขาวเช่น Macrophages และ T-lymphocyte เพิ่มขึ้น เมื่อร่างกายเรามีเม็ดเลือดขาวเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลในการช่วยบรรเทาและลด อาการภูมิแพ้
นอกจากนี้กระเทียมมี ฤทธิ์ที่เปรียบเสมือนยาปฏิชีวนะ ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา จากการทดลองพบว่าผลิตภัณฑ์กระเทียมในรูปแบบต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีผลในการยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรค หลายชนิดรวมทั้งเชื้อ Klebsiella pneumoniae ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดบวม และเชื้อ Mycobacterium tuberculosis อันเป็นสาเหตุของวัณโรค โดยเฉพาะเชื้อวัณโรคได้มีการทดลองให้น้ำมันกระเทียมในผู้ป่วยวัณโรคปรากฏว่าได้ผลดี
การ วิจัยยังพบว่าน้ำมันกระเทียมสกัด มีสารที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้เป็นสารจำพวก sulfide ดังนั้นกระเทียมจึงมีส่วนในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดโอกาสการแพ้ต่างๆ และลดอาการเรื้อรังทางระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด หอบหืด ไซนัส หูอักเสบ เป็นต้น และกรณีที่เสริมด้วยการรับประทานวิตามินเช่น วิตามินซีควบคู่กับน้ำมันกระเทียมพบว่าจะช่วยบรรเทาและลดความถี่ของการเกิด โรคภูมิแพ้ เนื่องจากทั้งวิตามินซีและน้ำมันกระเทียมจะเสริมฤทธิ์กันในการกระตุ้นให้ เกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวของร่างกายเพิ่มมากขึ้นส่งเสริมให้ภูมิต้านทานของ ร่างกายดีขึ้นอย่างชัดเจน
กระเทียมมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง และมีฤิทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
จากการวิจัยพบว่าสาร ตัวหนึ่งในกระเทียมชื่อ S-allylmercaptocysteine ช่วยลดการเกิดมะเร็งในต่อมลูกหมากได้ถึง 50% และสาร allyl sulfides ช่วยลดการผลิตเอนไซม์ phase 1 ซึ่งเป็นอันตรายต่อเซลล์และนำไปสู่การเกิดเซลล์มะเร็งได้ กระเทียมจึงสามารถป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งได้ดีเยี่ยม นอกจากนั้นซีลีเนียม (Selenium) ที่พบในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและลดอันตรายจากการเกิดอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดเซลล์มะเร็งที่อวัยวะต่างๆ
กระเทียมมีส่วนช่วยลดอาการผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
สภาวะอาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องเฟ้อ และท้องอืด ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง เสียดท้องหรือท้องอืด โดยกระเทียมสามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการแน่นจุก เสียด ท้องเสีย และกระเทียมยังมีฤทธิ์ขับน้ำดีทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น
กระเทียมมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
โดยกระเทียมไปออกฤทธิ์ต้านสารสังเคราะห์ Prostaglandin และกระเทียมยังมีฤทธิ์เพิ่มการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กด้วย
ประโยชน์ด้านอื่นๆของกระเทียม 
นากจากที่กล่าวมา กระเทียมยังมีประโยชน์ต่อการบำบัดรักษาอาการติดเชื้อทางเดินหายใจ, การเกิดพิษจากโลหะหนัก, หูอักเสบ, น้ำตาลในเลือดสูง, การปรับสภาพ ต่อความเครียด, การได้รับแอลกอฮอล์มากเกินไป, ท้องร่วง นอกจากนี้กระเทียมยังสามารถออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่างแรง (major antioxidant) ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อโรคของหลอดเลือด (arterial disease) และโรคเสื่อมต่างๆ (degenerative tissue condition)
สรรพคุณของน้ำมันกระเทียมสกัด Garlic Oil
  1. ช่วยบำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง
  2. ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย
  3. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
  4. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
  5. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือด
  6. ประโยชน์กระเทียม ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
  7. ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ อาการมึนงง ปวดศีรษะ หูอื้อ
  8. ช่วย ในเรื่องระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินปัสสาวะ เพราะมีสารที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนทั้งหญิงและชาย ช่วยทำให้มดลูกบีบตัว เพิ่มพละกำลังให้มีเรี่ยวแรง
  9. ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต
  10. ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
  11. ช่วยต่อต้านเนื้องอก
  12. กระเทียม ประโยชน์ช่วยแก้ปัญหาผมบาง ยาวช้า มีสีเทา
  13. ช่วยป้องกันการเกิดและรักษาโรคโลหิตจาง
  14. ช่วยในการขับพิษ และสารพิษอันตรายที่ปนเปื้อนในเม็ดเลือด
  15. กระเทียมสรรพคุณช่วยป้องกันผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว
  16. สารสกัดน้ำมันกระเทียม มีสารที่มีส่วนช่วยในการละลายลิ่มเลือด
  17. ช่วยป้องกันการเกิดเส้นเลือดอุดตัน
  18. มีสารต่อต้านไม่ให้เม็ดเลือดแดงแตก
  19. ช่วยบรรเทาอาการไอ น้ำมูกไหล ป้องกันหวัด
  20. ช่วยรักษาโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
  21. ช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบ และไซนัส
  22. ช่วยรักษาโรคไอกรน
  23. สรรพคุณ กระเทียมช่วยแก้อาการหอบ หืด
  24. ช่วยรักษาโรคหลอดลม
  25. ช่วยระงับกลิ่นปาก
  26. ช่วยในการขับเหงื่อ
  27. สรรพคุณของกระเทียมช่วยในการขับเสมหะ
  28. ช่วยควบคุมโรคกระเพาะ ด้วยสารที่ช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำย่อยอาหารมาย่อยแผลในกระเพาะ
  29. มีสรรพคุณช่วยในการขับลม
  30. ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
  31. ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
  32. ช่วยรักษาโรคบิด
  33. กระเทียบ สรรพคุณช่วยในการขับปัสสาวะ
  34. ช่วยในการขับพยาธิได้หลายชนิด เช่น พยาธิแส้ม้า พยาธิเส้นด้าย พยาธิเข็มหมุด พยาธิไส้เดือน เป็นต้น
  35. ช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบชนิดรุนแรงได้
  36. ช่วยป้องกันการเกิดโรคไต
  37. ช่วยฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียต่างๆ รวมถึงเชื้อราตามหนังศีรษะและบริเวณเล็บ
  38. ช่วยยับยั้งเชื้อต่างๆ เช่น เชื้อที่ทำให้เกิดฝีหนอง คออักเสบ เชื้อปอดบวม เชื้อวัณโรค เป็นต้น
  39. ช่วยกำจัดพิษจากสารตะกั่ว
  40. ช่วยรักษากลาก เกลื้อน
  41. ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ บำรุงข้อต่อและกระดูกในร่างกาย
  42. บรรเทาอาการปวดข้อและปวดเมื่อยตามร่างกาย
  43. ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกและเท้าแพลง เพราะมีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังบริเวณที่นวดยาได้ดีมากขึ้นนั่นเอง
  44. มีสารต้านอาการไขข้ออักเสบ โรคข้อรูมาติสม์
  45. กระเทียมมีกลิ่นฉุนจึงสามารถช่วยไล่ยุงได้เป็นอย่างดี
  46. ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย เพิ่มความยากอาหาร
  47. มีการนำไปแปรรูปเป็น สารสกัดน้ำมันกระเทียม กระเทียมสกัดผง กระเทียมเสริมอาหาร
**อ้างอิง กรีนเนอรัลด์ ดอทคอม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น